เชือดไก่

หลักสูตรเรียนใหม่ ในเคนยาสอนเด็กประถมเชือดไก่ ประกอบอาหารด้วยตัวเอง

หลังจากเกิดกระแส ในโลกออนไลน์อย่างหนัก จนทำให้ คลิปวิดีโอไวรัล ของเด็กเคนย่า วัยประถม 2 คน กำลังฆ่าไก่ จนเป็นที่ฮือฮา และได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ ในโซเชียล ถึงหลักสูตรนี้ ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาใหม่ ที่เน้นทักษะในเชิงปฏิบัติ สำหรับนักเรียนประถมในเคนย่า โดยในคลิปวิดีโอนั้น เป็นช่วงในระหว่างการเรียนการสอน แบบนอกห้องเรียน

ว่าด้วยเรื่อง การฆ่าไก่ และการทำอาหารจากไก่ ซึ่งในคลิปดังกล่าว จะเห็นเด็กนักเรียนวัย 11 ปี คนหนึ่งกำลังทำการจับไก่ และในขณะเดียวกันนั้นเอง เด็กอีกคนก็ได้ถือมีด ไปจื่อที่บริเวณคอหอยของไก่ อย่างตื่นเต้น ท่ามกลาง สายตาที่รุมล้อมจากเหล่า เพื่อนๆ ในชั้นเรียน และมีครูผู้สอน รับหน้าที่เป้นตากล้อง บันทึกภาพ ด้วยมือถือ และยังกล่าวชม เด็กที่ตัดหัวไก่ออก ก่อนจะสั่งเด็กโยนไก่ลงหม้อต้ม

แต่เมื่อเด็กวางหม้อลง ไก่หัวขาดก็กระพือปีกแล้วหนีไป คลิปวีดีโอความยาว 19 วินาที จบลงด้วยเสียงหัวเราะของครู และไก่ไร้หัวที่โชคร้ายซึ่งยังคงวิ่งไปรอบ ๆ ขณะที่เด็ก ๆ ส่งเสียงกรีดร้องและพยายามวิ่งหนีไก่ เมื่อหัวไก่ถูกตัดออก ตัวไก่ยังสามารถวิ่งไปมาได้หลายนาที และในระยะเวลาสั้นๆ วงจรประสาทไขสันหลังของมัน จะยังมีออกซิเจนตกค้างอยู่

เป็นภาพที่เด็กเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ไม่น่าลืมลงได้ง่ายๆ คลิปวิดีโอดังกล่าวจุดชนวน ให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยคนจำนวนมากกังวลเรื่องความปลอดภัยของเด็ก แต่แทบไม่มีใครยกประเด็นเรื่องความทุกข์ทรมานของไก่ เช่นเดียวกับในชนบทของเคนยาที่การเห็นไก่ถูกเชือดเป็นเรื่องธรรมดา

ตั้งแต่เริ่มเข้าศึกษาระดับประถม นักเรียนกลายเป็นหนูทดลองสำหรับหลักสูตรใหม่ และมีประสบการณ์ผ่านโครงการเชิงปฏิบัติการมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เรียนทำหุ่นไล่กาไปจนถึงทดลองขายสินค้าที่ตลาด ผู้สนับสนุนหลักสูตรใหม่ที่มุ่งเน้นตามความสามารถ (Competency Based Curriculum – CBC) มองว่านักเรียนมีทักษะเป็นนักบุกเบิกมากขึ้น

โดยกล่าวว่า เป็นการปรับปรุงระบบการศึกษาและการสอบแบบเก่า ซึ่งช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับชีวิตและการหางานทำในศตวรรษที่ 21 ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีการประเมินผลจากบทเรียนอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดการโกงข้อสอบ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติสำหรับรัฐบาล ในเร็ว ๆ นี้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ราว 1.25 ล้านคน กำลังจะเข้าสอบวัด

และประเมินผลการเรียนรู้ระดับประถมศึกษา ก่อนเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา ถือเป็นครั้งแรกที่ผลสอบจะถูกนำไปคิดคำนวณเป็น 40% ของคะแนนทั้งหมด ส่วนที่เหลือมาจากการเก็บคะแนนสะสมตั้งแต่เริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

เชือดไก่

‘เลี้ยงโรงเรียนด้วยเงินจากผู้ปกครอง’

แต่ผู้ปกครองบางคนไม่พอใจกับค่าใช้จ่ายของหลักสูตรใหม่ เนื่องจากโรงเรียนคาดหวังให้พ่อแม่บริจาคเงินและสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเรียนภาคปฏิบัติ เช่น ไก่ ครูสอนวิทยาศาสตร์ประจำโรงเรียนประถมที่เมืองคังกุนโด ทางตะวันออกของเคนยา กล่าวว่า บางครั้งนักเรียนจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน ถูกบังคับให้นั่งดูเพื่อนนักเรียนคนอื่นทำแบบทดลอง

“มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของฉัน กำลังเรียนเย็บผ้าเช็ดหน้าสำหรับโครงงานของพวกเขา และบางคนไม่มีเงินซื้อผ้า เราจึงลงเอยด้วยการให้นักเรียนบางคนใช้เศษผ้าที่เหลือจากของเพื่อนคนอื่น ๆ ที่ซื้อมา” เจมิมาห์ กิตารี บอกกับบีบีซี ครูรายนี้ยังแสดงความรู้สึกว่า เพื่อนร่วมงานบางคนก็เอาเปรียบเช่นกัน

ด้วยการขอให้เด็กๆ นำเนื้อมาโรงเรียน ซึ่งในความเห็นของเธอ นี่ไม่ใช่ข้อบังคับสำหรับวิชาทำสตูว์เนื้อ “โรงเรียนที่ฉันสอนอยู่ในหมู่บ้านที่บางครอบครัวไม่สามารถกระทั่งจะซื้อเนื้อสัตว์ได้ เพราะอาหารราคาแพงขึ้น ฉันจึงไม่สามารถขอให้พวกเขาเอาเนื้อมาได้” เธอกล่าว หลังจากวิชาปรุงอาหารจากไก่ ที่นักเรียนชั้นประถม 6 ทั่วประเทศ

ได้ทดลองเรียนในเดือน ก.ย. มีรูปถ่ายหลายใบถูกแชร์ทางโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นครูกำลังกินไก่ในห้องพักครู ส.ส.จากเคนยาตะวันตก ดิดมุส บาราซา ติงว่า บรรดาครูกินอาหารที่จ่ายโดยผู้ปกครองของนักเรียนที่แทบไม่มีเงินซื้ออาหาร “ตอนนี้บ้านของชาวบ้าน ไม่มีไก่เหลือแล้ว”

คำกล่าวของ ส.ส. รายนี้ สร้างความไม่พอใจให้แก่สหภาพแรงงานครู

การอภิปรายเรื่องไก่ดำเนินไปอย่างดุเดือด และไปถึงกับหูของประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต แห่งเคนยา ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่หลังเลือกตั้ง เขาจึงแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ 49 คน เพื่อประเมินหลักสูตรใหม่ซึ่งเป็นโครงการของ อูฮูรู เคนยัตตา อดีตประธานาธิบดีเคนยาคนก่อนหน้า โดยมีเส้นตายอยู่ที่สิ้นปีนี้ว่า หลักสูตรใหม่ CBC ควรดำเนินต่อไป

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่จะเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งจะเริ่มในเดือน ม.ค. 2023 หรือไม่ “หนังสือ และการออกแบบหลักสูตรพร้อมแล้ว แต่เรากำลังรอรับคำแนะนำก่อนที่เราจะสามารถแจกจ่ายได้” ศ.ชาร์ลส์ อง’ออนโด หัวหน้าสถาบันการพัฒนาหลักสูตรแห่งเคนยา ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี

ส่วนผู้ปกครองบางคนไม่สนใจการเน้นภาคปฏิบัติของหลักสูตรการเรียนการสอน แต่บอกว่าไม่ดีที่ขาดความสมดุลจากการลดเนื้อหาจากตำราไป “ลูกสาวของฉันซึ่งเรียนอยู่ประถม 4 ต้องเรียน 12 วิชา และแต่ละวิชาก็มีโครงงาน พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในเทอมที่แล้วทำโครงงาน จึงไม่มีเวลาเรียนในตำราเรียนได้ครบ” โรซิน่า คิซิลู

คุณแม่ลูกสองที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงไนโรบี บอกกับบีบีซี ครูกิตารีกล่าวเสริมว่า การมุ่งเน้นภาคปฏิบัติจริงทำให้ครูผู้สอนเนื้อหาจบตามหลักสูตรได้ยากขึ้น โดยชี้ไปที่การหยุดชะงักของการเรียนในภาคเรียนที่ 2 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากการจัดเลือกตั้งทั่วไป โดยข้อเท็จจริง ในช่วง 2 ปีการศึกษาที่ผ่านมา มีความไม่ปกติ จากการแบ่งเป็นภาคเรียนเป็น 4 เทอม

จากปกติ 3 เทอม โดยอ้างว่าเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป ระหว่างการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 บ้างก็อ้างว่าต้องให้เวลาแก่บรรดาครู สักพักเพื่อปรับตัว และทำความเข้าใจกับหลักสูตรใหม่ ยังมีอีกประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เมื่อไม่นานนี้ หลังปรากฏคลิปวิดีโอนักเรียน ในพื้นที่ชนบทนอนราบกับพื้น แล้วทำท่าว่ายน้ำ เพราะไม่มีสระว่ายน้ำให้ไปใช้

ทว่า มารีอน มูโธนี ครูชาวไนโรบี กล่าวว่า โครงการให้เด็กได้ออกกำลังกายคาดหวังให้เด็ก ๆ ได้เคลื่อนไหวมากขึ้น จึงมี 2 ทางเลือกให้ครูผู้สอนคือ ให้เด็กเรียนว่ายน้ำ หรือมากระโดดเชือกแทน ขึ้นอยู่กับว่าความพร้อมของโรงเรียนเรื่องสถานที่หรืออุปกรณ์ “เพื่อนร่วมงานของฉันบางคนพูดเกินจริง สิ่งที่ฉัน เห็นบนโซเชียลมีเดียค่อนข้างแตกต่าง จากแนวทางปฏิบัติที่เราได้รับ เมื่อเวลาผ่านไป ครูจะตระหนักว่าทุกสิ่งไม่จำเป็นต้องเน้นการไปปฏิบัติได้จริง” คุณครูมูโธนีบอกกับเรา

ขอบคุณแหล่งที่มา : bbc.com

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : thetuxproject.com